ทำความรู้จัก มาตรฐาน IP คืออะไร? ทำไมสำคัญ? IP65, IP67, IP68 อธิบายให้ชัดเจน

ทำความรู้จัก มาตรฐาน IP คืออะไร? ทำไมสำคัญ? IP65, IP67, IP68 อธิบายให้ชัดเจน


มาตรฐาน IP ย่อมาจาก International Protection Standard เป็นมาตรฐานที่บ่งบอกถึงระดับการป้องกันของอุปกรณ์1 มันประกอบด้วยตัวเลขสองหลัก ซึ่งหมายถึงการป้องกันจากแข็งและของเหลว1 ระดับนี้ช่วยให้อุปกรณ์ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือมีฝุ่น

IP67 คือมาตรฐานที่ป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ2 มันเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในและนอกอาคาร2 และสามารถทนได้กับน้ำลึกถึง 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที2

นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานอื่นๆ เช่น IP68 และ IP69K ที่มีความสามารถป้องกันแตกต่างกันไป2 IPX4 สามารถป้องกันเหงื่อและน้ำได้ทุกทิศทาง2 และพบได้ในหูฟังบลูทูธสำหรับออกกำลังกาย

สาระสำคัญ



  • IP67 คือมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นสูงสุด

  • IP67 เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง

  • IP67 สามารถจุ่มน้ำลึกถึง 1 เมตรได้นานถึง 30 นาที

  • มาตรฐาน IP มีความสำคัญสำหรับป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากความเสียหายเนื่องจากน้ำและฝุ่น

  • นอกจาก IP67 ยังมีมาตรฐาน IP68, IPX4 และ IP69K ที่มีระดับการป้องกันที่แตกต่างกัน


ความหมายของมาตรฐาน IP


มาตรฐาน IP หรือที่เรียกว่า "International Protection Standard" เป็นมาตรฐานระดับการป้องกันของแข็งและของเหลวสำหรับอุปกรณ์ทางกลและอุปกรณ์ไฟฟ้า3 มันช่วยให้ผู้ซื้อเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตน3 ระดับการป้องกันจะแสดงด้วยตัวเลข 2 หลัก3

ระดับ 5 ขึ้นไปสามารถป้องกันฝุ่นได้ดี แต่อาจมีฝุ่นเล็กน้อยเข้ามา4 ระดับ 6 ป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์4 สำหรับของเหลว มาตรฐาน IP Code ระดับ 7 ป้องกันการแทรกซึมของน้ำได้4

มาตรฐาน IP67 หมายถึงอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างสมบูรณ์4 น้ำไม่สามารถเข้ามาได้ถึง 1 เมตรใน 30 นาที4 นี่แตกต่างจาก IP54 ที่ป้องกันฝุ่นแต่มีฝุ่นเล็กน้อยเข้ามา4 และ IP65 ที่ป้องกันฝุ่นและน้ำได้จากทุกทิศทาง4

การระบุระดับการป้องกันตามมาตรฐาน IP ช่วยให้ผู้ใช้เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม3

โครงสร้างการจัดระดับมาตรฐาน IP


มาตรฐาน IP (IP Rating, IP Code, IP Standard) ช่วยบอกเราว่าอุปกรณ์สามารถป้องกันฝุ่นและของเหลวได้มากแค่ไหน5 มันสำคัญที่จะเข้าใจโครงสร้างนี้เพื่อเลือกใช้งานได้ดีที่สุด

ค่า IP ประกอบด้วยตัวเลข 2 หลัก


ค่า IP มีตัวเลข 2 หลัก ตัวเลขซ้ายบอกเราว่าระดับการป้องกันของแข็งอยู่ที่ไหน มี 7 ระดับ ตั้งแต่ 0 ถึง 65 ตัวเลขขวาบอกเราว่าระดับการป้องกันของเหลวอยู่ที่ไหน มี 9 ระดับ ตั้งแต่ 0 ถึง 9K6

ตัวอย่างเช่น IP67 หมายถึงป้องกันฝุ่นได้ 6 และน้ำได้ 76 อุปกรณ์ IP67 สามารถป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์ และทนต่อน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที6

การเข้าใจโครงสร้างของมาตรฐาน IP มีความสำคัญมาก เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการ5

ip67 ingress protection


ค่า IP67 แสดงถึงการป้องกันจากฝุ่นละอองและน้ำ7 ระดับ 6 หมายถึงการป้องกันฝุ่นได้ดี ระดับ 7 หมายถึงการป้องกันการแช่น้ำได้ 30 นาที7 ในระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร

อุปกรณ์ IP67 จึงถูกพิจารณาว่าเป็น "กันน้ำ" อย่างแท้จริง8 มีความทนทานสูงสำหรับการใช้งานภายนอกหรือในสภาพอากาศฝนตก8 ผู้บริโภคจึงพร้อมจ่ายราคาสูงเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี7

ตัวอย่างอุปกรณ์ IP67 เช่น คอมพิวเตอร์แบบ Fanless Embedded ของ C&T8 ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ เช่น กล้องวงจรปิด, เครื่องมือวัดผลผลิต และอุปกรณ์ทางการแพทย์8

ip67

การกำหนดระดับค่า IP มีต้นทุนที่สูง7 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการทดสอบและพัฒนา7 บริษัทที่ไม่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับค่ารับรอง IP อาจทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น789

ระดับการป้องกันของแข็ง


มาตรฐาน IP (IP Rating, IP Code, IP Standard) ช่วยกำหนดระดับการป้องกันของแข็งและของเหลวสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ10 มี 7 ระดับ เริ่มจาก 0 ซึ่งไม่มีการป้องกัน จนถึง 6 ที่ป้องกันฝุ่นละอองได้ 100%10 แต่อาจมีการกัดกร่อนได้

ระดับ 1 ป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 50 มิลลิเมตร ระดับ 3 ป้องกันของแข็งที่ใหญ่กว่า 2.5 มิลลิเมตร10 ผู้ใช้จะรู้ระดับการป้องกันของอุปกรณ์ได้

มาตรฐาน IP67 เป็นหนึ่งในระดับการป้องกันที่ดีที่สุด อุปกรณ์ IP67 ป้องกันฝุ่นละอองได้ดี และยังสามารถจุ่มในน้ำลึก 1 เมตรได้ 30 นาทีโดยไม่เสียหาย11

ด้วยคุณสมบัตินี้ มาตรฐาน IP67 เป็นที่นิยมในอุปกรณ์ทำงานในสภาพแวดล้อมเปียกชื้น เช่น อุปกรณ์วัดและตรวจสอบ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก1112,

ระดับการป้องกันของเหลว


มาตรฐาน IP (International Protection Standard) กำหนดระดับการป้องกันของเหลวตั้งแต่ 0 ถึง 9K13. ระดับ 0 ไม่สามารถป้องกันของเหลวใดๆ ได้เลย. ในขณะที่ระดับ 9K สามารถป้องกันของเหลวแรงดันสูงพิเศษได้13.

ตัวอย่างเช่น IP20 ไม่สามารถป้องกันของเหลวใดๆ ได้14. ในขณะที่ IP65 ป้องกันฝุ่นละอองและน้ำจากท่อสายฉีดได้14. IP67 สามารถป้องกันฝุ่นละอองและน้ำลึกถึง 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที14.































ระดับ รายละเอียดการป้องกัน
IP4 ป้องกันการกระเซ็นน้ำจากทุกทิศทาง
IP5 ป้องกันฝุ่นละอองได้บางส่วน
IP6 ป้องกันฝุ่นละอองได้อย่างสมบูรณ์
IP7 ป้องกันการแทรกซึมของน้ำจากการแช่ลงในน้ำลึก 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที
IP8 ป้องกันการแทรกซึมของน้ำจากการแช่ในน้ำลึกถาวร
IP9K ป้องกันน้ำที่มีแรงดันสูงพิเศษ เช่น การฉีดน้ำที่อุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส โดยที่แรงดันน้ำต้องไม่น้อยกว่า 100 บาร์ และระยะห่างระหว่างหัวฉีดและอุปกรณ์ไม่เกิน 150 มม.

ระดับการป้องกันของเหลวมีความสำคัญมาก. มันช่วยกำหนดการใช้งานของอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า. อุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง.

ดังนั้น อุปกรณ์จึงต้องมีระดับการป้องกันของเหลวสูง เช่น IP69K เพื่อรับมือกับการฉีดน้ำแรงดันสูง13.

โดยสรุป ระดับการป้องกันของเหลวตามมาตรฐาน IP มีตั้งแต่ 0 ถึง 9K. ระดับสูงสามารถป้องกันการแทรกซึมของน้ำได้มากขึ้น เช่น การป้องกันการจุ่มน้ำ และการฉีดน้ำที่มีแรงดันและอุณหภูมิสูง.

มันสอดคล้องกับการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์13.

ตัวอย่างมาตรฐาน IP ที่พบบ่อย


มาตรฐาน IP หรือ Ingress Protection Ratings ช่วยระบุระดับการป้องกันของอุปกรณ์จากสิ่งอื่น เช่น ฝุ่นและน้ำ12 มันช่วยให้เราเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน15

ตัวอย่างมาตรฐาน IP ที่ใช้กับอุปกรณ์วัดอุตสาหกรรมมีดังนี้:

  • IPX4 ป้องกันการกระเซ็นของน้ำจากทุกทิศทาง เช่น จากเหงื่อหรือฝน12

  • IPX7 ป้องกันการแทรกซึมของน้ำเมื่อจุ่มในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที12

  • IP67 ป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์ และป้องกันการแทรกซึมของน้ำเมื่อจุ่มในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที12

  • IP2X ป้องกันการสัมผัสด้วยนิ้วมือได้12

  • IP23 ป้องกันการสัมผัสด้วยนิ้วมือและป้องกันหยดน้ำที่ตกกระทบในแนวเฉียง 60 องศา12


การเข้าใจมาตรฐาน IP ช่วยให้เราเลือกอุปกรณ์วัดที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน15

มาตรฐานการป้องกันอุปกรณ์

ผู้ใช้สามารถตรวจสอบมาตรฐาน IP ของอุปกรณ์ได้จากข้อมูลจำเพาะหรือบนเว็บไซต์ของผู้ผลิต เช่น legatool.com12

การกำหนดระดับ IP ตามลักษณะการใช้งาน


การเลือกระดับ IP ของอุปกรณ์ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน16 ระดับ IP มีความสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำที่แตกต่างกัน16 ตัวอย่างเช่น:

  • IPX4 เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพที่มีเหงื่อหรือฝนกระทบ เช่น หูฟังกีฬา17

  • IP67 เหมาะสำหรับใช้งานที่ต้องการความกันน้ำและฝุ่นอย่างมาก เช่น กล้องกันน้ำ18

  • IP68 เหมาะสำหรับใช้งานที่ต้องการการป้องกันสูงสุด เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธง16


ระดับการป้องกันที่สูงขึ้นจะมีราคาแพงกว่า16 ควรเลือกระดับที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเลือกระดับสูงสุดเสมอไป16 เพราะจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น16
"การใช้งานมาตรฐาน IP อย่างถูกต้องจะช่วยให้อุปกรณ์ของคุณมีความทนทานและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในหลายอุตสาหกรรม"

สัญลักษณ์พิเศษสำหรับค่า IP ขั้นสูง


นอกจากตัวเลข 2 หลักที่แสดงระดับการป้องกันของแข็งและของเหลวในมาตรฐาน IP แล้ว19 ยังมีสัญลักษณ์พิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันของแข็งและของเหลวเฉพาะด้าน เช่น:

  • f คือ สามารถป้องกันน้ำมันได้

  • H คือ ปกป้องจากไฟฟ้าแรงดันสูงได้

  • M คือ มีการทดสอบว่าสามารถกันน้ำขณะที่อุปกรณ์เคลื่อนที่

  • S คือ มีการทดสอบว่าไม่สามารถกันน้ำขณะที่อุปกรณ์เคลื่อนที่

  • W คือ ทนต่อสภาพอากาศธรรมชาติ

  • K คือ ป้องกันน้ำที่มีแรงดันสูงพิเศษได้19


สัญลักษณ์พิเศษเหล่านี้ช่วยเพิ่มระดับ ระดับ ip สูง และความสามารถในการป้องกันได้มากขึ้น20 ทำให้ใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการ สัญลักษณ์พิเศษ ip เพื่อความปลอดภัยสูงสุด1920

การเลือกใช้ สัญลักษณ์พิเศษ ip ที่เหมาะสมมีความสำคัญมากในการป้องกันอุปกรณ์จากภัยคุกคามทางกายภาพ และรับรองการใช้งานที่ปลอดภัย แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย1920

สรุป


มาตรฐาน IP (Ingress Protection Ratings) ช่วยบอกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือกลสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้มากแค่ไหน21 มันประกอบด้วย 2 ตัวเลข. ตัวเลขแรกแสดงระดับการป้องกันจากแข็ง และตัวเลขที่สองแสดงระดับการป้องกันจากของเหลว21

มาตรฐาน IP67 เป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% และน้ำได้ถึง 1 เมตรนาน 30 นาที224 มีมาตรฐานอื่นๆ เช่น IP54, IP65, IP66, IP66K, IP68 และ IP69K4

มาตรฐาน IP ช่วยบอกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์สามารถทนทานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้หรือไม่21 เช่น ในโรงงาน, ยานยนต์, ทางทะเล หรือภายนอกอาคาร21


FAQ



มาตรฐาน IP67 คืออะไร? ทำไมมันถึงสำคัญ?





มาตรฐาน IP67 ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าและกล. IP67 หมายถึงป้องกันฝุ่นได้ 100% และน้ำไม่เกิน 1 เมตร 30 นาที. มันสำคัญมากสำหรับใช้ในที่เปียกหรือมีฝุ่น





มาตรฐาน IP (IP Rating, IP Code, IP Standard) มีความหมายอย่างไร?





มาตรฐาน IP ย่อมาจาก International Protection Standard. มันบอกถึงระดับการป้องกันของแข็งและของเหลวสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่เกิน 72.5 โวลต์





โครงสร้างของมาตรฐาน IP เป็นอย่างไร?





ค่า IP ประกอบด้วยตัวเลข 2 หลัก. ฝั่งซ้ายคือป้องกันของแข็ง, ฝั่งขวาคือป้องกันของเหลว. มี 7 ระดับสำหรับของแข็งและ 9 ระดับสำหรับของเหลว





ระดับ IP67 คืออะไร?





IP67 หมายถึงป้องกันฝุ่นได้ 100% และน้ำไม่เกิน 1 เมตร 30 นาที. มันเหมาะสำหรับใช้ในที่เปียกหรือมีฝุ่น





ระดับการป้องกันของแข็งมีอะไรบ้าง?





ระดับการป้องกันของแข็งมี 7 ระดับ. ระดับ 0 ไม่มีการป้องกัน, ระดับ 6 ป้องกันฝุ่นละอองได้ 100%. แต่ละระดับป้องกันของแข็งขนาดต่างกัน





ระดับการป้องกันของเหลวมีอะไรบ้าง?





ระดับการป้องกันของเหลวมี 9 ระดับ. ระดับ 0 ไม่มีการป้องกัน, ระดับ 9K ป้องกันน้ำแรงดันสูงพิเศษ. แต่ละระดับป้องกันน้ำในรูปแบบต่างๆ





มาตรฐาน IP ที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?





มาตรฐาน IP ที่พบบ่อย ได้แก่ IPX4, IPX7, IP67, IP2X และ IP23. แต่ละมาตรฐานมีความสามารถป้องกันของแข็งและของเหลวที่แตกต่างกัน





การเลือกระดับ IP ควรคำนึงถึงอะไร?





เลือกระดับ IP ตามลักษณะการใช้งาน. IPX4 เหมาะสำหรับสภาพที่มีเหงื่อหรือฝน. IP67 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความกันน้ำและกันฝุ่นอย่างมาก. IP68 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการป้องกันสูงสุด





มีสัญลักษณ์พิเศษใดบ้างสำหรับค่า IP ขั้นสูง?





นอกจากตัวเลข 2 หลักแล้ว ยังมีสัญลักษณ์พิเศษ เช่น f, H, M, S, W และ K. แต่ละสัญลักษณ์บ่งบอกความสามารถเฉพาะด้านที่แตกต่าง




Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *